วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เมื่อผม(คิด)ไปทำ JH5 pro



Entry นี้มาพร้อมกับความเห่อของใหม่ครับ นั่นก็คือ CIEM (Custom In-Ear Moniters)หรือหูฟังแบบคัสตอมนั่นเองครับ จริงๆยังมีพวกหูเก่าๆที่พิมพ์คาไว้อยู่แต่ขอดองไปก่อนขอลัดเอาเรื่องหูฟังตัวใหม่ตัวนี้มาเล่าให้ฟังกันก่อน

ตอนแรกว่าจะรีวิวเรื่องเสียงแต่ว่ามันยังไม่พ้นเบิร์นเลย คงเล่าเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปก่อนละกันครับ แรกเริ่มไม่เคยคิดว่าจะมาจบที่หูฟังคัสตอมหรอกครับผมเองกะว่าแค่ หูอินเอียร์ตัว top อย่าง TF.10 ก็คงพอแล้ว ถึงแม้วันที่ผมไปซื้อ TF.10 คนขายจะทักว่าระวังจะไปโดนคัสตอมนะก็ตามที ถามว่าผมชอบไหม TF.10 
ผมชอบนะชอบเสียงมันมากเลยสูงระยิบระยับ สเตจกว้าง ใสกิ้ง แต่...แต่มันใส่ยากชิบเลยครับใส่ไม่พอดีโฟกัสผิดนี่เสียงก็เห่ยบรม เบสจม เวทีหด พยายามลองหาวิธีใส่ เปลี่ยนจุกนู่นนี่นั่นก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่ดีเท่าไหร่

ก็พยายามทนๆใช้มาครับ ใช้สมาธิตอนใส่นิดนึงให้ได้โฟกัสแล้วพยายามไม่ถอดบ่อยๆ แต่หลังๆเริ่มรำคาญก็ลองมองๆหาหูฟังตัวอื่นในระดับเดียวกันมาใช้แทนทั้ง shure se535 ,westone w3 ,w4r และ um3x ซึ่งทั้งหมดที่บอกมาใส่สบายแต่แนวเสียงยังไม่โดน

ลองกลับมานึกดูปัญหาว่าทำไมผมใส่ยากกว่าปกติก็พบว่ารูหู 2 ข้างมันไม่เท่ากัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือพิมพ์หูทำคัสตอม T^T ก็ทนๆใช้ tf.10 ในสภาพใส่แบบหาโฟกัสยากๆพร้อมกับหาข้อมูลเรื่องหูคัสตอมไปด้วยว่ามียี่ห้อไหนบ้าง รุ่นไหนดี ตอนนั้นที่คิดในใจก็มี JH5 JH13 ES5 1964 4รุ่น 3 ยี่ห้อ พอหาข้อมูลแล้วก็ต้องลองฟัง แต่ผมไม่ได้ไปลอง 1964 นะลองแค่ 3 ตัวที่เหลือ

ซึ่งบทสรุปมาจบที่ JH5 เพราะมันถูกที่สุด เพราะเงินมีแค่นั้น ซึ่งก็ถือว่าดีเพราะ ระหว่าง jh13 กับ es5 2 ตัวนี้ตัดสินใจยากมากสูสีกันเหลือเกิน พองบไม่ถึงก็ไม่ต้องเลือก(ปลอบใจตัวเองกันไป)

สีกล่องหวานสดใสดั่งกล่องขนม

พอเลือกรุ่นได้ก็กลับมานั่งหารีวิว ข้อมูลนู่นนี่นั่นอ่านเพิ่มอีก เพราะหูคัสตอมนี่ตัดสินใจผิดเหมือนเงินหายไปเป็นหมื่นเลยทีเดียว หลังจากย้อนไปลองฟังและนั่งอ่านรีวิวซ้ำอีก 10 รอบก็ถึงเวลาตัดสินใจทำสักที วันที่ไปพิมพ์หูผมก็ยังลองฟัง JH5 เทียบกับ W4r UM3x อีกรอบตอนนั้นเทียบจริงๆหูเดโม jh5 ยังหนี 4r ได้ไม่เยอะแถมเสียงบางด้านยังแพ้ด้วย แต่ผมก็ตัดสินใจ เอาวะพิมพ์หูให้จบๆกันไป ไม่ต้องโลเล

ตอนพิมพ์หูนี่ออกจะเกร็งๆนิดหน่อย เพราะพึ่งหายหวัดไม่รู้ว่ารูหูมันจะขยายหรือหดตัวรึเปล่ากลัวนู่นนี่นั่นแล้วก็โดนฉีดซิลิโคนเข้าหูครับมันจะอื้อๆเต็มๆในรูหูเหมือนโดนดินน้ำมันอัดเข้ามาในหูเลยแน่นๆ คับๆ ต้องอ้าปากตอนฉีดซิลิโคนไว้ด้วย ทำข้างซ้ายเสร็จพัก 5นาทีก็มาทำข้างขวาต่อก็เหมือนเดิมฉีดซิลิโคนเข้าหูแน่นๆ เสียดายว่าลืมถ่ายรูปพิมพ์หูของตัวเองไว้

พิมพ์หูเสร็จก็มาเปิดออเดอร์ครับเลือกรุ่นเลือกสี shell เลือกสี faceplate สายซึ่งขนาดผมลองทำมาแล้วในเวบของ JH Audio แต่พอถึงเวลาทำจริงๆนี่ก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันครับสีเยอะทั้งแบบทึบ แบบใสและแบบ blacklight ตรง faceplate เลือกลายได้และเลือกพื้นผิวได้จะลายไม้ ไทเทเนียม ลายผ้า ติดglitter ก็ได้เยอะแยะครับ แต่ผมเลือกลายฟรีที่ jh มีให้(งกนั่นเอง) เลือกชื่อที่จะให้พิมพ์บนกล่อง
แบบหูฟังที่ผมลองทำในเวบ JHAUDIO

หลังจากนี้ก็รอครับรออย่างเดียว อ่อผมพึ่งมานึกได้ว่าสีตอนเลือกที่ร้านมันคนละสีกับตอนที่ผมลองทำ ตอนลองทำผมเลือกสี  Knuckle Red แต่ในออเดอร์เป็น Red Eye Red อันนี้ผมผิดเองที่จำชื่อเฉดสีไม่ได้ ระหว่างรอก็ยังวนเวียนกลับไปอ่านพวกรีวิวอยู่เรื่อยๆนะครับ พร้อมแอบกังวลว่ามันจะฟิตพอดีหูไหม แล้วถ้าเสียงไม่ดีอย่างที่หวังละ นู่นนี่นั่น เรียกง่ายๆว่าเกือบฟุ้งซ่านครับ

ช่วงเดือนแรกยังไม่เท่าไหร่เพราะเรารู้ว่าออเดอร์เยอะ ไม่ได้ภายในเดือนแรกแน่ๆแต่พอใกล้ๆครบกำหนด 8-9 สัปดาห์ยิ่งกระสับกระส่ายครับว่าของจะมาเมื่อไหร่ว้า กอปรกับช่วงนั้น tf.10 คู่บุญสายหูฟังขาดในด้วยเลยไม่มีหูฟังเลย หลายๆคนก็ให้กำลังใจครับว่าคุ้มค่าการรอ เสียงตัวจริงดีกว่าเดโมอีกเยอะ ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่ออะครับ อารมณ์แค่มันมาฟิตพอดีหูก็พอใจแล้วอยากฟังเต็มแก่

พอถึงกำหนดส่งจริงๆก็ตรงกับช่วงอีสเตอร์วันหยุดยาวของฝรั่งอีกก็รอเพิ่มไปอีก 1 สัปดาห์ตอนนั้นบอกไม่ถูกเหมือนกันครับว่ารอนานจนเผลอคาดหวังว่าเสียงมันต้องดี หรือนานจนเลิกคาดหวัง

พอถึงวันรับหูฟังจริงๆตื่นเต้นครับ ก็ให้ที่ร้านลองสอนการใส่ สอบถามเรื่องการดูแลรักษาก็เหมือนกับหูฟังทั่วๆไปไม่มีอะไรพิเศษ ตอนนั้นก็พอใจแล้วครับเพราะลองที่ร้านแล้วมันใส่ได้ฟิตพอดีหูไม่ต้องส่งไปรีฟิต อ่อ ตอนใส่ที่ร้านทำให้ผมรู้อีกอย่างว่านอกจากรูหูผมจะไม่เท่ากันแล้ว รูหูข้างซ้ายยังเอียงอีกด้วย มิน่าทำไมมันถึงได้ใส่ TF.10 ยากเป็นพิเศษ 

พอออกมานอกร้านก็ได้เวลาทดสอบการใช้งานจริงทันที จับสาวน้อย flying girl ใส่หูทันที ผลปรากฎว่าใส่ไม่เข้าครับ เฮ้ย เอาใหม่ใจเย็นๆ ค่อยๆหมุน หามุมเล็งดีๆ กว่าจะใส่ได้ 2 ข้างล่อไป 5 นาที+ได้ แอบนึกในใจว่าแม่ง ใส่ยากวะ แต่พอใส่ได้พอดีแล้วมัน block เสียงรอบด้านออกไปหมดเลยครับยังกะอยู่ในห้องปิดตาย ขนาดอยู่ริมถนนสุขุมวิทตอนเย็นๆที่การจราจรพลุกพล่าน อาจจะมีเสียงรถเมล์ตอนเบิ้ลเครื่องเล็ดรอดเข้ามาบ้าง แต่ถ้าตอนเปิดเพลงนี่ไม่ได้ยินเสียงอื่นเลยครับ 

หูตัวจริงลองเทียบกับแบบข้างบนดูครับ

มาทางด้านตัวชิ้นงานผมเองไม่เคยมีหูคัสตอมแต่ดูแล้วก็เรียบร้อยดีครับ หูฟังมาในกล่อง otterbox ที่เปิดยากมากสอดมาในแจคเกตกระดาษสีหวานแหวพร้อมคู่มือ เปิดกล่องตัวหูฟังมาในถุงกำมะหยี่พร้อมที่เขี่ยขี้หู 1 อันตัวหูฟังดูเงาๆลื่นๆ รวมๆแล้วผมพอใจนะครับถ้าจะติก็คงเป็นหูซ้ายผมเลือกเป็นชื่อรุ่น หูขวาเป็นชื่อยี่ห้อ แต่ตัวจริงกลับเป็นชื่อยี่ห้อทั้ง 2 ข้าง
รวมๆแล้วก็โอเคครับถ้าให้คะแนนผมให้ 9.5/10  

ป.ล.
ตอนนี้ใส่คล่องแล้วครับหมุนนิดเดียว ฟลอบเข้าหูพอดี
เรื่องเสียงตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าผมเห่อไปเองรึเปล่าว่าเสียงมันดี เลยขอเวลาอีกสักพักคงได้เขียนเฉพาะเรื่องเสียงรวมถึงให้เวลาเบิร์นหูด้วย ถ้าจะบอกเรื่องเสียงคร่าวๆตอนนี้คือตัวจริงกับเดโมต่างกันมาก 30-60 เปอร์เซนต์เลยทีเดียวและเสียงมันกินเรียบ หูยูนิเวอร์แซลเกือบทุกตัวเลย สูงแบบ tf.10 กลางแบบse535  และกลองมันๆแบบum3x รวมถึงสเตจมาทั้งกว้างและลึก 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น