วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

เบสบวมๆกับ ex71

ในที่สุดคอมตัวเก่าก็พังจนเกินจะยื้อไหว จนต้องเสียเงินมาซื้อใหม่จนได้
ซึ่งก็ทำให้ได้คีย์บอร์ดใหม่มาด้วย เลยต้องขอลองทดสอบสักนิดด้วยการอัปบลอก

ซึ่งก็คงไม่พ้นการพิมพ์ถึงเรื่องหูฟังอีกนั่นเอง 
หูที่จะกล่าวถึงคราวนี้คือ Sony MDR EX71-SL นั่นเองครับ
ถ้าผมจำไม่ผิดนี่น่าจะเป็นหูฟังแบบอินเอียร์รุ่นแรกของโซนี่ราคาตอนออกศูนย์ใหม่ๆนี่เหยียบ 2 พันกว่าบาทเลยครับ

แต่ผมมาซื้อใช้ก็ตอนที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือเอามาแยกขายจากมือถือของไอโมบาย 349 บาท (ลดไปเกือบ 2 พันได้) อุปกรณ์ที่ให้มาก็ถือว่าครบเครื่องครับจุกยาง 3 ขนาด สายต่อหูฟัง ที่เก็บสายและกระเป๋าใส่หูฟัง (สายต่อนี่พอต่อแล้วยาวมากๆครับ ใครที่ตัวสูๆ 180+ น่าจะชอบ)
ซึ่งคนที่ฟังแต่หูแถมมาตลอดอย่างผมตอนนั้น แค่เห็นของแถมก็คิดในใจว่าคุ้มสลัดๆ
พอเอาใส่หูเพื่อลองฟังเสียง ฟังได้ไม่ถึง 10 วินาทีถอดออกแทบไม่ทันครับ

เปล่าครับไม่ใช่เสียงไม่ดีหรือว่าอะไร แต่เสียงมันดังเกินไปมากๆๆๆ พอลองดูก็อ่อ เปิดความดังไว้ซะสุดเพราะฟังกับหูแถม ก็เลยลดเสียงลดแล้วลองฟังใหม่

อย่างแรกที่สัมผัสได้คือเบสครับ มาแรง หนักหน่วงกระแทกกระทั้น ฟังแล้วมันมาก และตอนนั้นนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการเข้าวงการหูฟัง เพราะรู้แล้วว่ามันต่างจากหูแถมยังไง
ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด ณ ตอนนั้น ผมชอบเจ้า ex71 มากเลยนะครับฟังเพลงอะไรๆก็สนุก เสียงที่ไม่ค่อยได้ยินจากหูแถมโดยเฉพาะเบสมากันเต็มๆ แหลมก็แผดได้ไกลดี

ทว่าหลังจากไปใช้หูรุ่นอื่นสัก 1-2ปี และกลับมาใช้หูรุ่นนี้อีกครั้ง ความรู้สึกที่ได้มันไม่เหมือนเดิมครับ
เบสที่บวมดังลำโพงเวทีเห่ยๆ แหลมที่บาดหูและกลางจมดิ่ง แรกๆก็งงๆว่า เฮ้ยทำไมเสียงมันห่วยลง
แต่พอมาลองคิดดีๆแล้่ว เป็นที่หูของเราเองมันพัฒนาไปฟังตัวสูงๆมาแล้ว ถึงมาเจอข้อด้อยของรุ่นนี้นั่นเอง

ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังหาหูรุ่นนี้มือ 1 ได้ไหมผมว่าเหมาะเป็นหูเริ่มต้นนะ ฟังแล้วเห็นผลต่างจากหูแถมชัดเจน
เหมาะกับคนชอบเบสแบบกินเบสแทนข้าว คุณภาพเสียงก็เหมาะสมกับราคาดีที่ 300 กว่าบาท ถ้าไม่คิดมาก นึกเสียว่าซื้อสายต่อ+ถุงผ้าแถมหูฟังก็พอไหว แถมใช้แบบไม่ต้องถนอมพังก็ไม่เสียดายเท่าไหร่
พอเริ่มชินกับเสียงแล้วค่อยขยับขึ้นมาเล่นตัวที่สูงขึ้นอีก หรือจะเลิกเล่นก็ไม่เจ็บตัวมากกับราคาแค่ 300 กว่าบาท ๆไม่แน่บางคนอาจจะชอบเสียงเบสบวมๆของเจ้าตัวนี้ก็ได้ครับ :P


วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิวหูที่เคยฟัง

หลังจากขุดเรื่องเก่าๆมาโพสลง บลอกจนหมด ก็ทำให้ถึงเวลาต้องเขียนเรื่องใหม่สักที
ก็คงเป็นเรื่องหูฟังนี่ละเพราะช่วงนี้กำลังเห่อนั่งอ่านบทความเกี่ยวกับหูฟัง
ไม่รู้จะเรียกว่ารีวิวได้ไหม เพราะบางตัวก็ฟังมานานแล้ว
ก็คงเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ในหูฟังรุ่นที่เคยใช้มามากกว่าจะรีวิวแบบแจกแจงทุกรายละเอียด
หูฟังที่เจ้าของบลอกเคยใช้และเป็นเจ้าของก็มี

  1. หูแถม ไอพอดเจน3  & หูแถมไอพอดคลาสสิค
  2. Sony EX71 - SL
  3. SHURE E3C
  4. Audio Technica CK52
  5. Harman / Kardon EP710
  6. HiFiman RE-2
  7. หูไม้ JBL(ปลอม)
  8. Ultimate Ears Super. Fi 3 Studio
  9. Ultimate Ears Tripple.10 Pro
(เฮ้ย 9 ตัวเลยเหรอแอบเยอะนะนั่น - -a) 
ถ้ารุ่นไหนจำได้เยอะก็คงเขียนถึงเยอะ รุ่นไหนจำได้น้อยคงเขียนแค่ผ่านๆ แต่จะพยายามเขียนให้มีสาระเยอะที่สุดละกัน

ไหนๆก็เขียนแล้วก็ขอพูดถึงหูอันแรกก่อนเลยแล้วกันนั่นก็คือ
หูแถมไอพอดเจน 3  & หูแถมไอพอดคลาสสิค
บางคนอาจจะถามในใจว่าหูแถมไม่ได้เหมือนกันทุกรุ่นเหรอ
ไม่เหมือนครับ หูไอพอดตั้งแต่ เจน 5 มาก็มีการเปลื่ยนแปลงนู่นนี่นั่นนิดหน่อยตลอด
บางรุ่นมีรีโมทกับไมค์ บางรุ่นมีแค่รีโมท หรือบางทีแค่ปลื่ยนตัว Housing เฉยๆ
ถ้าไม่นับเรื่องรีโมทดูกันที่ตัว Housing อย่างเดียวก็แบ่งได้ 2 รุ่นครับลองดูตามรูป(จากวิกิ)

ทางซ้ายคือรุ่นที่แถมมากับไอพอดเจน 3 ครับส่วนทางขวาคงคุ้นตากันอยู่
แถมมากับไอพอดตั้งแต่เจน 5.5
ตัวพลาสติกชนิดเดียวกันแต่ทรงต่างกันนิดนึง ตระแกรงของเจน3 จะถี่กว่าและใหญ่กว่า
ยางตรงสายของเจน 3 สั้นกว่า ขอบยางตรงหูฟังบางกว่า

ตอนใช้งานผมใช้ของเจน 3 มากกว่าเพราะช่วงนั้นยังไม่เข้าวงการหูฟัง ก็ทนทานดี สุ้มเสียงก็โอเค
เอาเรื่องความทนทานก่อนผมใช้หูคู่นี้ 3 ปีน่าจะได้ใช้แบบสมบุกสมบันมากขึ้นรถ ลงเรือ เวลาเก็บก็พันลวกๆใส่กระเป๋า ก็ยังใช้มาได้ตลอด 3 ปีจนเริ่มขยับไปฟังรุ่นสูงขึ้นจึงยกให้คนอื่นไป

ทางด้านเสียงออกแนวแฟลต เรียบๆใสๆ เบสมาแบบบางๆ บางเฉียบ 
โดยส่วนตัวคิดว่ามันไม่ได้แย่มากมายแบบที่หลายๆคนยี๊กัน บางคนอคติล่วงหน้า ได้มายังไม่ใช้ก็ว่าเสียงห่วยแล้ว

ข้อเสียใหญ่ๆผมว่าคือการกันเสียง แน่นอนว่ามันทรงแบบ ear bud กันเสียงไม่ได้ดีอยู่แล้ว
แต่กับหูรุ่นนี้ผมว่าแย่มากๆเสียงที่เราฟังก็ดังเผื่อแผ่คนอื่น อีกทั้งยังกันเสียงภายนอกไม่ได้เลย พอเสียงภายนอกรบกวน คุณภาพเสียงก็ตกลง 
ผมคิดว่านี่คือสาเหตุที่คนฟังแล้วคิดว่าหูแถมไอพอดเสียง กาก ถ้าได้ลองฟังในห้องเงียบๆก็จะรู้ว่ามันไม่แย่ขนาดนั้น
แต่ก็นะ จะมีสักกี่คนซื้อเครื่องเล่นพกพามาฟังในห้องเงียบๆ นิ่งๆและถ้าต้องทำยังงั้นหูตัวนี้ก็สอบตกในแง่การพกพา
รวมๆแล้วคือทนดี เสียงพอทนและกันเสียงได้แย่

มาที่หูแถมไอพอดคลาสสิคหรือหูแถมไอพอดรุ่นปัจจุบันกันบ้าง
ผมมีโอกาสใช้หูรุ่นนี้ระยะนึง ช่วงกำลังหาหูฟังมาแทนตัวที่พัง ผลคือผมใส่แทบไม่ได้ครับ 
ไม่ทราบว่าทำไมเช่นกัน จะว่าเพราะหูฟังใหญ่ขึ้นแต่ดูๆแล้วก็เท่าๆกับรุ่นเดิม ผมเดาว่าน่าจะเป็นที่ยางมั้ง
ผมใส่แล้วมันคอยจะหลุดอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยจับทุกๆ 10-20 วินาที
เสียงจากที่ตั้งใจฟังผมว่าไม่ต่างจากรุ่นเดิม 
พอใส่ไม่ได้ ผมก็ยกให้น้องไปใช้
ไม่ถึง 6 เดือนพวกยางหุ้มต่างๆ เปื่อยลอก ออกมาหมด คนที่เคยใช้คงพอนึกสภาพออก
ผมให้ความคงทนต่ำมากๆอยากเรียกว่า ห่วยเลยด้วย
ใส่ก็ไม่ได้ เสียงก็แบบเดิม ความคงทนก็เห่ย สงสัยแอปเปิลคงแอบลดต้นทุนวัสดุ

ความรู้สึกที่จะเขียนเกี่ยวกับหูแถมไอพอดก็คงจบแค่นี้
แล้วมาต่อกันบลอกหน้ากับ Sony EX71 - SL ครับ

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

╮( ̄▽ ̄)╭


╮( ̄▽ ̄)╭  (‘¬‿¬) / (;ノ゚Д゚)
(´∀`)
(´▽`*)
o(^▽^*)o
…┐(´ー`)┌
╮(╯▽╰)╭
(●´ー`●)
( *`ω´)
(゚ロ゚;)
(#°д°)
(*`へ´*)
(;ノ゚Д゚)ノ
( ̄△ ̄;)
( ̄へ ̄;)
(  ̄3 ̄)

โกวเล้ง”มันผู้ใดบอกว่ารู้จักอิสตรี มันผู้นั้นไม่รู้อะไรเลย”


โกวเล้ง
“ปีศาจสุรา คนชั่วช้าจริงแท้ มีที่ใดไม่ดี นั่นยังดีกว่าวิญญูชนจอมปลอมที่ใส่หน้ากากหลอกลวงผู้คนนัก”

คำพูดของลี้คิมฮวง
…ชั่วชีวิตมนุษย์…สิ่งที่บันดาลให้หดหู่รันทด มิใช่การจำพราก…หากเป็นการอยู่ร่วมเพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้…

“มีผู้หนึ่งเคยถามว่ามีดบินเทวดาของลี้น้อยเป็นเช่นไร”
“แล้วยามนี้เล่า?”
“พวกประดานั้นต่างตายหมดแล้ว!!”

ความรักเป็นสิ่งงดงาม งดงามประหนึ่งดอกกุหลาบ แต่ทว่ามันมีหนาม… กุหลาบที่ไร้หนามในโลกนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือมิตรภาพ

เมื่อคิดเสพสุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องเตรียมใจสำหรับกล้ำกลืน ความกลัดกลุ้มและปวดร้าวจากความรักด้วย

ถึงแม้บาดแผลบนร่างกายของคนเรา อาจมีได้ นับร้อยนับพันแห่ง…
แต่รอยแผลในหัวใจ กลับมีอยู่เพียงรอยเดียว และที่ตรงนั้นเอง…
ที่เขารู้สึกว่าเปราะบางที่สุด ถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด
แม้ว่าปากแผลจะปิดไปแล้วก็ตาม
แต่เมื่อไรที่มีอะไรมาสะกิดทำให้เราหวนคิดกลับไป…อาการก็จะกำเริบเจ็บปวดขึ้น มาอีก

รักลึกซึ้ง แค้นย่อมล้ำลึก
///////////  http://goo.gl/m3bQv
...ไม่มีการอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพราก?
การอยู่ร่วมของพวกเรา
อาจเป็นการเริ่มต้นจำพรากของผู้อื่น
และการจำพรากของพวกเรา
อาจเป็นการเริ่มต้นการอยู่ร่วมของผู้อื่น
เมื่อดื่มด่ำกับการอยู่ร่วม
แล้วเหตุใดไม่อาจกล้ำกลืนความรวดร้าวของการจำพราก?
หากไม่เคยหลั่งน้ำตาให้กับการจำพราก
ไหนเลยล่วงรู้ถึงความสุขสดชื่นของการอยู่ร่วม…

รอยขาดของเสื้อผ้าเย็บปะได้ แต่บาดแผลในหัวใจมิว่าผู้ใดก็ไม่อาจเย็บสมาน
หากคิดโลมลูบความหอมละมุนของความรักก็ต้องแบกทานความเหน็ดเหนื่อย
และรันทดท้ออันเนื่องจากความรักด้วย
หรือท่วงทำนองแห่งรักมักบรรเลงด้วยอารมณ์เช่นนี้เสมอ

...นับแต่โบราณกาล
คำ “รัก” ชุบชีวิตคนจำนวนมาก
แต่ก็ทำร้ายใครไม่น้อย...

หากหัวใจของผู้ใดตายแล้ว มีเพียงสองวิธีเท่านั้น ที่จะสามารถบันดาลให้มันฟื้นคืนมาได้
หนึ่งคือความรัก หนึ่งคือความแค้น…
credit : โกวเล้งไต้เฮียบ ใบไม้คืนสู่ราก, พาสนา แพรวพรรณ, สำนักพิมพ์มติชน

ถ้าเรือ Aegis สู้กับทัพเรือไทย

เป็นโพสต่อเนื่องจากบลอกที่แล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรือเอจิส(Aegis)

ถามเลยละกันครับว่า เทียบกับเรือAegis ลำนึงนี่
เอาเรือของกองทัพเรือไทยเข้าสู้ด้วยนี่จะต้องใช้เรือไทยกี่ลำลำใหนบ้าง
ถึงจะมีอาวุธพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ถ้าเกิดไม่พอให้ยืมกำลังอกงทัพอากาศ
ด้วยก็ได้นะครับ
^
^
^
^
^
ตามความรู้อันน้อยนิดที่ผมมี..ลองเดาเล่นๆ โดยใช้เรือชั้นคองโก
ของญี่ปุ่น (ไม่เอาอาเลนเบิร์กของ US ขานั้นโหดไป..เจอโทมาฮอร์ก)
.
.
- เรือเอจิส ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเรือหน้าด่านป้องกันเรือบรรทุกเครื่องบิน
โดยจุดแข็งมาก คือเรดาห์เอจิส และระบบป้องกันภัยทางอากาศที่เหนียว
แน่น
- ขีปนาวุธ SM2 โชคการยิงถูกเป้ามาตรฐานไม่ต่ำกว่า 50%  มี90 ลูก
เอจิสล็อกเป้าหมายพร้อมกันได้ 72 เป้า นำวิถีต่อเนื่องได้ 12 ลูกต่อชุด
-กองทัพไทยต้องใช้อากาศยานระดับ F16, หรือขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ
ซิกแซกฝ่าเข้าไปอย่างน้อย 45 ชุด เพื่อผ่านแนวป้องกันชั้นแรก (10- 100
Km)
- แนวป้องกันชั้นใน คือปืนใหญ่ประจำเรือ และเป้าลวง + ระบบสงคราม
อิเล็กทรอนิคส์ + ซึ่งหากระบบเรดาห์โดนรบกวนแล้วแก้ไขไม่ได้ ก็ไม่มี
ทางเลือกอื่นนอกจากพิสูจน์ทราบด้วยสายตา..นักบิน
- แนวป้องกันสุดท้าย ฟาลังซ์ 2 แท่น  อัตราการยิง 6 พันนัดต่อนาที/แท่น
ที่จะสาดแนวกระสุนเป็นม่านป้องกันเรือเอจิส
- ถ้าจะชนะเอจิสด้วยกำลังทางอากาศแน่ๆ โปรดเตรียม F16/ฮาร์ปูน อย่าง
น้อย 60 ชุดครับ
.
.
.
.
แสรดดด………เก่งขนาดนี้เอาเรือรบไปสู้ดีกว่า
- เรือเอจิส มี Harpoon 16 ลูก แจกพร้อมเฮลิคอปเตอร์ชี้เป้า สามารถยิง
ได้จนสุดระยะ ฮารปูน 120 km + ระบบเอจิสรับหน้าที่แบ่งแยกเป้าหมาย
- เป้าหมาย 16 เป้าก็ได้แก่…
1. เรือจักรีสัก 6 ลูก  (มี ciws ซาดัลน่าจะสกัดได้สัก 50% เหลือเข้าเป้า
สองสามลูก ไงๆก็พอเหลือเฟือที่จะจมได้)
2. เรือ HMS นเรศวร/ตากสิน/พุทธยอดฟ้าฯ/พุทธเลิศลาศฯ แจกไปลำละ
สองสามลูก… กองเรือคุ้มกันเด่นๆเราก็มีแค่นี้แหละครับ
3. ทีเหลือเอา SM2 มายิงใส่เรือรบก็น่าจะได้… เห็นในเกมทำได้ (ฮา)
4. ถ้ามีโทมาฮอร์กอีก 24 ลูกแบบ เรือDestroyer ของ US คงกวาดกองทัพ
บกได้ด้วย
.
.
.
ดังนั้น กองทัพเรือไทย สามารถเอาชนะเรือเอจิสได้ครับโดย
- ส่งเครื่องบิน (>90) + เรือ(>16) ไปเยอะๆ  บังคับให้เอจิสยิงจนหมดมิซไซล์
- พอหมดแล้ว ก็เอาเรือ/คอปเตอร์เราธรรมดาๆ นั่นแหละ วิ่งไปไล่ยิงด้วยปืนใหญ่
- …พอไม่มีมิซไซล์เอจิสก็เหมือนเรือธรรมดาๆนี่เอง..
.
.
.
.
.
- จุดอ่อนเดียวของเรือเอจิส คือ เรือดำน้ำครับ….
มีระบบอาวุธ แอสร็อก + เตอร์ปิโด ต่อต้านก็จริง…แต่เรดาห์เอจิสล็อกเป้า
ใต้น้ำไม่ได้…และการตรวจจับเรือดำน้ำที่ซ่อนตัว ทำได้ยากมาก
.
.
.
ปล.
ผมเคยเล่นเกมวางแผนยุทธศาตร์เก่าๆ อย่าง Fleet command
- กองเรือเอจิสนี้แหละไม้ตายของ US เลย ผมไล่ถล่ม USSR เละ
- โทมาฮอร์ก/ เครื่องบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน/ เรือเอจิส ประสานงาน
กันได้ดี
- แต่เรือบรรทุกเครื่องบินผมโดนเรือดำน้ำจม….ฮ่วยยย!!
ปล2
- แต่ถ้าเรือ AEGIS โดน SSN19-22  ของรัสเซียยิงใส่นี่รากเลือด  จรวดบ้าอะไร
ก็ไม่รู้ 2-3 มัค แถมหัวรบมันจมเรือบรรทุกเครื่องบิน US ได้ในลูกเดียว
- ชอบตอนกองเรือเอจิส ซ้อมยิงใหญ่มาก  จำลองสถานการณ์ฝูงบินรัสเซีย
ระดมยิง SS22 ใส่เป็น12 ลูก  เป้าหมายเรือบรรทุกเครื่องบิน
- เรือเอจิสทั้งกอง (6 ลำ) ยิง SM2 ไปสกัดเป็นร้อย  ผลสกัดได้ครึ่งเดียว
- ที่เหลือลุ้นกับ ฟาลังซ์ อีก20 ป้อมรอบกองเรือ
.
..

ปล3  Rep41
- ผมกำหนดไว้ให้เยอะๆ เพราะหมายถึงจะจมให้ได้แบบ 100% อะครับ
- ถ้าให้กามิกาเซ่ นี่เสียดายนักบินนะครับ ^_^
- เรดาห์หลายระบบในปัจจุบันใช้หลักการสะท้อนคลื่นกับบรรยกาศ
- เรดาห์เอจิส ตรวจจับได้ไกลเกินระยะขอบฟ้าเยอะเลยครับ เพราะใช้หลักการ
Doppler signal ซึ่งสะท้อนคลื่นเรดาห์ไปกับบรรยากาศชั้น Ionosphere (ระยะตรวจจับเลยปาไปเกือบครึ่งพันกิโลเมตร)
- มีเฮลิคอปเตอร์ ช่วยขยายระยะตรวจจับด้วยแก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 00:48:51
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 00:39:10
แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 20:58:35
แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 19:26:19
แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 18:56:23


จากคุณ : Kross_ISC  – [ 1 เม.ย. 52 18:47:39 ]

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/04/X7689555/X7689555.html

Kirov สุดยอดเรือรบ

หาเรื่องเรือคิรอฟอ่านเล่นๆไปเจอโพสน่าสนใจขอเอามาเก็บไว้หน่อย



ความคิดเห็นที่ 39
เข้ามาดูด้วย แต่ข้าพเจ้าไม่รู้เหมือนกันว่า รัสเซียจะมีอะไรพอรับมือกับเอจิสได้หรือเปล่า แต่เหมือนเคยได้ยินมาว่าไอ้ Kirov Battle Cruiser เนี่ย มันพอสูสีกับ เรือชั้น Ticonderoga ของ อเมริกาที่เป็นเรือเอจิส แต่อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ
^
^
^
ไม่สูสีครับ  เอจิส 3-4 ลำ รุมยังเอาคิรอฟไม่ลงเลย  จัดเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุด แล้วในปัจจุบัน….เพียงแต่ Kirov มีประจำการแค่ 2-3 ลำเองตอนนี้ ขณะที่เรือเอจิสอเมริกามี 80 กว่าลำ….
เคยมีความหลังกับไอ้เรือลำนี้บ่อยมาก Kirov จัดเป็นเรือในระดับ Battle-Cruiser เลยทีเดียว  ด้วยขนาดร่วมๆ 3 หมื่นตัน (3เท่าของเรือจักรี)..+ ขับเคลือ่นด้วยพลังงานนิวเคลียร์.  แถมระบบอาวุธอย่างเพียบ
ยกตัวอย่างคร่าวๆ- เรดาห์ ระยะตรวจจับไกลกว่า AEGIS … (ร่วมๆ 700km)
- เฉพาะจรวดต่อต้านอากาศยาน (Sam) มี3 ระยะระยะไกล 92 ลูก  (ระยะยิงไกลกว่า SM2 ของAegis ราวๆ 100 km)ระยะกลาง 40 ลูกระยะประชิด 192 ลูก (เช็ดดด…เข้)
- จรวดต่อต้านเรือรบ 2 ระยะ  SSN19, SSN22  -  20 ลูก- จรวดปราบเรือดำน้ำ + เตอร์ปิโด- ป้อมปืน CIWS  30 mm ระยะประชิด (คล้ายๆฟาแลงซ์)  8 ป้อม..ยังไม่หมดนะ เอาเท่าที่จำได้  จัดเป็นสุดยอดเรือรบโดยแท้จริงเลย เสียดายรัสเซียมีใช้น้อยไปหน่อย
อันนี้เล่าให้ฟังเล่นๆ เอาฮาๆครับ  - ในเกม Fleet Command/Harpoon ผมคุมกองทัพเรือที่7 ของ US (18 ลำ เป็น Aegis 4 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบิน1)- เรือดำน้ำรัสเซียมาตอดเล็กตอดน้อย  ก็ส่ง ฮ ไปปราบ
- แล้วอยู่ๆก็มีไอ้เรือ Kirov นี้โผล่มา…- มาลำเดียวก็เสร็จกรูดิ …….(คิดในใจ)… ส่ง F18 ติด Harpoon ไป 6ลำ กะถล่มสบายๆ
- ที่ระยะ200 km จากเรือ Kirov F18 4 ลำ หายไป…..(หายไปไหนฟะ..)
- ซูมภาพเข้าไปดู เห็น F18 อีก 2 ลำกำลังปล่อยเป้าลวงหนีตาย กะ SAM 4 นัด..วิ่งไล่กวด….เฮ้ย..มันยิงได้ไงฟะ นี่ยังไม่ทันเข้าระยะยิงฮารปูนฝั่งตรูเลย
- แถมไอ้เรือ Kirov ที่ว่ายังดุ่ยๆ วิ่งใส่กองเรือผม เหมือนนักวิ่งกำลังวิ่งเข้าเส้นชัย- ด้วยความหงุดหงิดเลยส่ง P3-Orion, E2-C, F14 , F18  เรือ Aegis1 ลำ + เรือฟรีเกตอีก 5 ลำ ไปขวางทาง
- ที่ระยะยิงไกลสุดๆ.. ผมส่งโทมาฮอร์ก จากเรือเอจีส  + ฮารปูน จาก F18 ประดาประดับไป รวมๆ 40 ลูก…. กดยิงจนเหนื่อยเลย….(คิดในใจ มรึงเสร็จกรูแน่…)
- ที่ระยะไกลสุดๆอีกเช่นกัน.. Kirov มันยิง SSN19 สวนมา 4 ลูก- 4 นาทีต่อมา ระหว่างที่กำลัง วุ่นวายกับจัดฝูงบิน….เรือ Aegis ที่ตั้งให้อยู่ในโหมดยิงตอบโต้อัตโนมัติ…จม (เฮ้ย!)
- ดูรีเพล..เรือ Aegis ยิง SM2 ใส่…+เรือฟรีเกตที่เหลือ สาดฟาลังซ์ใส่ ยิงจรวดตกได้2 ลูก  - ฝั่งเรือ Kirov โดนขีปนาวุธผมวิ่งใส่เป็นสาย… (เป็นสายจริงๆ ร่วม  40 ลูก)
- ตอนซูมภาพดู ผมเห็นจรวด SAM จาก Kirov ยิงสวนออกมาเป็นสายเหมือนกัน ( Kirov มีท่อยิงแซมทั้งหมด เกือบๆ 80 ท่อ)..- ฮารปูน/โทมาฮอร์กผ่านแนวแซมเข้าไปได้ประมาณ 15 ลูก…
- Kirov ที่ซิ่งเต็มที มาสาดปืนกลใส่… มัน…มันมีฟาแลงซ์  8 แท่นยิง…- สุดท้าย เหลือฮารปูนหลุดเข้าไปถึง Kirov ได้ 2 ลูก.. ควันลุกท่วม..แต่ไม่มีไฟ  ….. แล้วมันก็ยังดุ่ยๆ เข้าใส่กองเรือผมเหมือนเดิม…
- ระหว่างที่กำลังหงุดหงิด  USS-Kitty Hawk ของผมโดนเรือดำน้ำรัสเซียยิงจม  (ฮ่วยยยย)      (เลิกๆ โหลดเซฟเล่นใหม่..แล้วผมเอาเรือดำน้ำไปดักรุม …55)…ปล.  ไม่รู้เล่าพอเข้าใจรึเปล่า  แต่อยากแชร์ประสบการณ์สนุกๆให้ฟัง กับเรือ KIROV คู่แข่งของเรือ Aegis ครับ
ปล2 ในรูปวงระบบอาวุธของ KIROV ให้ดู
จากคุณ : Kross_ISC  - [ 1 เม.ย. 52 23:38:55


http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/04/X7689555/X7689555.html

มดๆๆ


เมื่อความสูงเปลี่ยนแปลง N พละกำลังจะเปลี่ยนแปลง N^2 แต่น้ำหนักจะเปลี่ยนแปลง N^3
ถ้าคุณสูงขึ้น 10 เท่า คุณไม่ได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแค่ 10 เท่า แต่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นถึง 1000 เท่า
เพราะเราอยู่ในโลก 3 มิติ กว้างยาวสูง เมื่อเราสูงขึ้น เราก็จะหนาขึ้น และกว้างขึ้นไปด้วย (ที่มาของ N^3)
สมมุติคุณสูง 180 ซม. หนัก 80 กก. ถ้าคุณสูงขึ้น 10 เท่า คุณก็จะสูง 18 เมตร แต่น้ำหนักจะมากถึง 80,000 กก. หรือ 80 ตัน
พละกำลังวัดได้จากผิวหน้าตัดของกล้ามเนื้อ ยิ่งมีพื้นที่ของผิวหน้าตัดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแข็งแรง
ผิวหน้าตัดเป็นพื้นที่ 2 มิติ ถ้าวัตถุใดๆสูงขึ้น N เท่า ผิวหน้าตัดจะเพิ่มขึ้น N^2
สมมุติว่าคุณที่สูง 180 ซม. หนัก 80 กก. สามารถยกน้ำหนักได้รวมน้ำหนักตัว 160 กก.
ถ้าคุณสูงขึ้น 10 เท่า น้ำหนักคุณจะเพิ่มขึ้น 10^3 = 1000 เท่า แต่พละกำลังจะเพิ่มขึ้นเพียง 10^2 = 100 เท่า
ทำให้คุณที่สูง 18 เมตร หนัก 80 ตัน แต่ยกน้ำหนักได้เพียง 160 x 100 = 16,000 กก. หรือ 16 ตัน. (ไม่สามารถยืนได้ด้วยซ้ำ)
แต่กลับกันถ้าคุณตัวเล็กลง 10 เท่า คือสูงแค่ 18 ซม. น้ำหนักคุณจะลดลงเหลือเพียง 1/10 ^ 3 = 0.001 เท่า
แต่พละกำลังของคุณจะลดลงเพียง 1/10 ^2 = 0.01 เท่า
คุณที่สูง 18 ซม. จะเหลือน้ำหนักเพียง 0.08 กก. แต่จะยกน้ำหนักได้ถึง 1.6 กก. คิดเป็น 20 เท่าของน้ำหนักตัว
มด มีความยาว 6 มิลลิเมตร หนัก 3 มิลลิกรัม (0.003 กรัม) สามารถยกน้ำหนักได้ 50 เท่าของน้ำหนักตัว = 150 มิลลิกรัม
ถ้ามดตัวใหญ่ขึ้นจนสูง(ยาว)เท่าคนหรือ 180 ซม. ก็เท่ากับใหญ่ขึ้น 180 / 0.6 = 300 เท่า
น้ำหนักของมดจะเพิ่มขึ้น 300^3 = 27,000,000 เท่า ก็จะหนักประมาณ 81 กก. (พอๆกับคนเป๊ะ)
แต่พละกำลังจะเพิ่มขึ้นเพียง 300^2 = 90,000 เท่า ทำให้ยกน้ำหนักได้ 90,000 x 150 มิลลิกรัม = 13.5 กก. (แค่ยืนก็ไม่ได้)
แต่กลับกัน ถ้าย่อส่วนให้คนตัวเท่าหมด (สูง 6 มิลลิเมตร) ก็จะลดขนาดลงเหลือ 0.6 / 180 = 0.003333 เท่า
น้ำหนักของคนจะลดลงเหลือ 0.003333 ^ 3 * 80 กก = 2.96 มิลลิกรัม (พอๆกับมด)
แต่จะสามารถยกน้ำหนักได้มากถึง 0.003333 ^ 2 * 160 กก. = 1777.777 มิลลิกรัม หรือคิดเป็นประมาณ 600 เท่าของน้ำหนักตัว
อยากให้หลายๆคนที่ยังมีความเชื่อผิดๆว่า แมลงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแรงที่สุดในโลก เพราะข้ออ้างบราๆๆๆ
อยากให้มองความเป็นจริงว่าพวกเราอยู่ในโลก 3 มิติ เราไม่ได้แค่สูง แต่ต้องกว้าง และหนาขึ้นด้วย
เรามักจะได้ยินข้อมูลผิดๆที่ว่า มดแข็งแรงมาก มันสามารถยกน้ำหนักได้ 50 เท่า ถ้ามันตัวใหญ่เท่าคนมันจะสามารถยกรถบัสได้
หรือหมัดสามารถกระโดดได้สูง 30 เท่าของความสูงตัวเอง ถ้ามันตัวเท่าคน มันจะกระโดดข้ามตึก…
ด้วงเสือ สามารถยิ่งได้เร็วที่สุดในโลก ถ้ามันตัวใหญ่เท่าคน มันจะวิ่งได้ 300 กม./ชม.
สิ่งเหล่านี้ มันจะผกผันทันที เมื่อขนาดของสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ต่างหาก ที่แข็งแรงอย่างแท้จริง
แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 53 23:39:27
จากคุณ : (-_-”)

1,411.2 kbit


โดยปกติ Audio CD จะบันทึกตามมาตาฐานคือ 16 bit
ด้วยอัตรา Sampling 44,100 Hz
Bit คือ ความสามารถในการให้รายละเอียดเสียง, ระดับความเบาค่อย ถ้า16 bit จะได้ 65535 ระดับเสียง
Sampling Rate คือ ค่าที่เป็นตัวบอกความต่อเนื่องของเสียง, Audio CD จะใช้ Sampling 44,100 Hz มาจากค่าความถี่เสียงสูงสุดที่คนสามารถได้ยิน(~22.05 kHz) คูณ 2 (เพราะเป็นสเตอรืโอ 2 ชาแนล)
ทีนี้เข้าใจนะครับว่า 44.1khz คือ 44100hz ซึ่งไม่ใช่ระดับวามถี่เสียงที่คนได้ยิน แต่อย่างไร หรือเก็บข้อมูลได้สูงขึ้น -*-
ผมยิ่งอ่าน DAC Technic ก็ยิ่งงงครับ
เลยไม่รู้จะตอบ อธิบายเกี่ยวกับมันยังไง
เพราะตอนแปลงเสียงกลับมาเป็น Analog ต้องใช้ DAC
เอาเป็นว่าตามมาตราฐาน Audio CD
44,100 samples per second  16 bits per sample  2 channels = 1,411,200 bit/s = 1,411.2 kbit/s
ข้อมูลต่อ 1 วินาที = 1,411.2 kbit
ถ้าเพลง 4 นาทีจะใช้เนื้อที่ 40.37 Mbyte
แผ่น 700 Mbyte จะเก็บเพลงได้ 17 เพลง (4 นาที/เพลง)
ถ้าบิทสูงก็จะทำให้ขนาดเนื้อที่ต่อเพลงมากขึ้น
ก๊อปมาจากพันทิปแต่จำลิงค์ไม่ได้ละ

กาแฟ กาแฟ กาแฟ


วิธีชง กาแฟสด แบบอัดความดัน นะ ง่ายๆ
เอสเพรสโซ คือเม็ดกาแฟคั่วบด อัดในเบ้า ผ่านน้ำร้อนที่มีแรงดัน เป็นตัวตั้งต้นทำกาแฟสูตรต่างๆ
คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่2ช๊อต ใส่นม กี่ส่วนแร้วจำไม่ได้ แปะฟองนมไว้ข้างบนด้วย เพื่อดักความหอม คริๆ
ลัตเต้ เอสเพรสโซ่ ใส่นมมากกว่าคาปูไปเยอะ
มอคค่า เอสเพรสโซ่ ใส่นมกับโกโก้ มอลต์ มอลต์ แปะวิปครีมข้างบนด้วย
อเมริกาโน่ เอสเพรสโซ่ ใส่น้ำร้อน โอเลี้ยงอ่ะแหละ
รู้ไว้นิดว่า เอสเพรสโซ ไม่มี เย็น มีแต่ร้อน เห็นสั่งกันจังเรย เอสเพรสโซเย็น
ปล. อีกอัน คาปูไม่ใส่ ฟองนม สั่งแบบนี้ มันก็ไม่ใช่คาปู สิบักหำ
เครดิตโดย คุณกระบี่หัก
1.เมล็ดพันธ์ ใช่ว่าต้องสุดยอดทุกอย่าง ถ้าเราไม่ได้ขายราคาเท่าสตารบัค
แต่ไม่ควรเอาเมล็ดห่วยมาผสม และควรใช้ อาราบิก้าล้วนๆ คนไทยไม่ชอบขมมาก
แนะนำเบอร์ 4 หรือ 5 มาผสม
2.เรื่อง เครื่องชงมีผลเหมือนกัน
แต่ก่อนผมไม่เชื่อว่าเครื่องแพงๆ จะชงได้อร่อย แต่มันก็ถูกของเค้านะครับ
เครื่องแพงย่อมน่าจะดีกว่า และทำให้ร้าน ดึงดูดคนคอกาแฟเข้ามากินมากกว่า
แนะนำ เครื่อง+ที่บด ต้องมีงบไม่ต่ำกว่า แสนห้าครับ สองอยย่าง
อย่าว่าเวอร์นะครับ
นี่คือเริ่มต้นเองครับ แถมสองอย่างด้วย บดก่ะชง จริงๆ พวกร้านดีๆเครื่องอย่างเดียวก็แสนอ่ะครับ
3.
ระดับการตั้งน้ำ และการทำเพอเฟคช๊อต อันนี้สำคัญสุดๆครับ ต้องหาให้ได้
ว่าจุดพีชมันตรงไหน เชื่อไหมครับว่า ถ้าผมล้างเครื่องยกใหญ่เมื่อไหร่
ตั้งเพอเฟตใหม่อีกครั้ง ผมเทกาแฟทิ้งไปเกือบ 6-7แก้วชอตเลย หมดไปครึ่งถุง
เพราะหาเพอเฟคช๊อตนี่แหละ
4.กาแฟเย็น คนไทยชอบมากต้องพยายามพลิกสูตร ด้วยตัวเองด้วยครับ อยากรูู้มากินร้านผม อิอิ
5. จำไว้ว่า มันก็คือศิลปะอย่างนึงอ่ะครับ อย่ายึดติดตามตำรามากครับ ต้องดูจากลูกค้าด้วย งงไหม
เรื่อง
สูตร เอาตามตำรามันไม่ยากหรอกครับ จริงๆ อยู่ที่ เมล็ด เครื่องบดและชง มือ
การตั้งเพอเฟคช็อต อันนี้สำคัญสุด ไว้มาเทสร้านผมได้เหอๆ เรื่องกาแฟ
ร้านผมมีไม้ตายอยู่ที่คาปูชิโน่ กับ เอสเพรซโซ๋ อิอิ
เหมือนที่
คุณกระบี่หักว่า เอสเพรซโซ่เย็นไม่มี แต่คนไทยที่ไม่ใช่คอแท้ ชอบสั่ง
แต่มันทำได้ครับและ มันต้องทำด้วยเหอๆ แปลกสุดๆ ใครคิดค้นฟระเนี่ย
เอสเพรซเพรซโซ่เย็น ร้านผมเลยต้องฉีกกฎคิดสูตรทำเลย
เครดิตโดย คุณนักเตะเบลโล

ทำไมเวลาขึ้นจักรยานต้องขึ้นจากด้านซ้าย


คำอธิบายจากรายการ Mega Clever
ก็มาจากการขึ้นม้านั่นล่ะครับ ที่สมัยก่อน อัศวินเหน็บดาบไว้ด้านซ้าย ดังนั้นการจะขึ้นม้าให้สะดวกโดยไม่ติดขัดหรือด้ามดาบไม่ไปทิ่มพุงม้าซะก่อน ก็เลยต้องขึ้นทางด้านซ้าย เพราะจะไม่มีดาบมาบังการขึ้นน่ะครับ
ใช่คับ ใช้ขาข้างที่ถนัด
เพราะเป็นสัญชาติญาณ ของมนุษย์ครับ
คนที่ถนัดขาข้างขวา จะก้าวขาขวา ออกไปอย่างอัตโนมัติ(คนถนัดขวาจะจูงจักรยานให้อยู่ขวาของตัว)
เพราะว่าหากก้าวข้ามไปแล้วเหยียบไม่โดน ที่ปั่น(เขาเรียกว่าอะไรน้าา)
ขาข้างที่ถนัดจะทำหน้าทีเป็นหลักแทนได้ทันที เพราะหากก้าวพลาด
ศูนย์ถ่วงจะถูกย้ายไปโดยอัตโนมัติ จากซ้ายไปขวา (แหงล่ะ ก็มันเซนิ)
และขาข้างขวาที่ถนัดก็จะทำหน้าที่เป็นหลักให้เราได้อย่างมั่นคงกว่าขาซ้านที่ไม่ถนัด
เอาง่ายๆคับ เวลาคนเราเจอบันไดที่มีขั้นสูงๆ จะก้าวขาที่ถนัดขึ้นขั้นแรกก่อนเสมอ….
จากคุณ : Omega-T
จริงๆแล้ว เกิดจากความเสถียร คนส่วนใหญ่ การใช้ขาซ้ายเป็นฐานจะเสถียรกว่าการใช้ขาขวาเป็นฐาน เช่นลู่วิ่ง จะวิ่งทวนเข็ม เพราะขณะโค้งขาซ้ายอยู่วงใน วิ่งสั้นกว่า ยึดเป็นฐานได้ดีกว่า
จากคุณ : เด็กน้อยหัวใจสะออน